เกือบ 1 ปี แล้ว “ด้วยความระลึกถึงท่าน”
เรื่องเล่าจากเยือนเย็น
เกือบ 1 ปี แล้ว “ด้วยความระลึกถึงท่าน”
22 ตุลาคม 2566 วันปลดล็อคกาแฟเย็น
คุณพ่ออายุ 83 ปี เป็นโรคสมองเสื่อมหลังจากที่สมองขาดเลือด (Stroke) เมื่อสิบปีที่แล้ว แต่ยังเดินได้ในบ้าน จนเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว เกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบอีกครั้ง ทำให้พูดไม่ชัด กลืนไม่เหมือนเดิม ปรึกษาหมอที่โรงพยาบาล ให้ใส่สายอาหารทางจมูก (NG) พ่อล้มแขนหักใส่เฝือกอยู่สองเดือน ตามด้วยเลือดออกในกระเพาะอาหาร ส่องกล้องพบว่าเกิดจากตับแข็งทำให้เส้นเลือดโป่งพอง มีน้ำในท้อง หลังเจาะออกแล้วติดเชื้อในช่องท้อง รักษาจนหาย ต่อมามีการติดเชื้อในปัสสาวะอีกสองครั้ง ลูกเห็นว่าพ่อเข้าโรงพยาบาลบ่อยเกินไปแล้ว อยากลองรักษาด้วยยาจีนแต่หมอที่โรงพยาบาลไม่เห็นด้วย จึงปรึกษาเยือนเย็น วิสาหกิจเพื่อสังคม
คุณพ่อเป็นคนช่างกิน ชอบทำกับข้าวให้ลูก ๆ โดยเฉพาะข้าวกระเพาะหมู และชอบกินอาหารทุกอย่าง อย่างละคำสองคำ เมื่อมีเวลาว่างชอบนั่งจิบน้ำชากับเพื่อน ๆ ตั้งแต่คุณพ่อใช้ชีวิตกับสายอาหารทางจมูกและนั่งบนรถเข็นมาเกือบปี ขาดอิสรภาพในการเดินด้วยตนเอง อดกินของอร่อย โดยเฉพาะกาแฟ พ่อไม่กลัวตาย ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะไปดาวดึงส์ คุณพ่อยังคงใส่บาตรทุกเช้าและนั่งรถเล่นบ้าง ขณะที่ลูกๆ ผลัดกันดูแลอย่างใกล้ชิด และเคารพการตัดสินใจของพ่อที่จะไม่ไปโรงพยาบาลอีก
คุณพ่อใช้ชีวิตกับสายอาหารทางจมูก แต่ไม่ได้กินเพราะนักกิจกรรมบำบัดที่โรงพยาบาลประเมินเมื่อหลายเดือนก่อนว่ากลืนไม่ได้ พ่ออยากดื่มกาแฟมากแต่ทำไม่ได้ เพียงเพราะลูกกลัวจะสำลักลงปอด ลูกรู้ว่าพ่อเป็นโรคตับแข็งระยะสุดท้าย เราจึงคุยกันว่า ในเมื่อพ่อไม่กลัวตาย หากลูกยอมรับความเสี่ยงได้ว่า “กินก็ตาย ไม่กินก็ตาย” เราสนับสนุนให้พ่อได้ลิ้มรสกาแฟบ้าง เริ่มจากการลองจิบน้ำ ถ้ากลืนได้ไม่สำลัก ก็ลองกาแฟ ถ้าสำลักจริง เราจะรักษาภาวะติดเชื้อให้ที่บ้านได้ ลูก ๆ จึงรวบรวมความกล้าหาญและทดลองให้พ่อลิ้มรสกาแฟและนมรสช็อคโกแลตที่พ่อชอบโดยเริ่มจากปลายช้อน จนใช้หลอดดูดได้เอง เห็นการขยับลงของลูกกระเดือกแล้ว เย้!! พ่อกลืนได้แล้ว ไม่สำลักด้วย ลูกๆ 4 คนดีใจมาก แต่ไม่เท่าคุณพ่อที่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
หลังจากวันที่ครอบครัวได้ปลดล็อคกาแฟเย็นให้คุณพ่อแล้ว ยังมีโอกาสพาคุณพ่อไปทำบุญเลี้ยงเพลพระที่วัดทองเจริญ ในรอบ 6 เดือนที่ไม่เคยออกนอกบ้านเลย คุณพ่อได้ลิ้มรสอาหารผ่านปากอย่างมีความสุข สดชื่นขึ้น สร้างความมั่นใจให้ลูกๆ ว่าเรามาถูกทางแล้ว และจะทำทุกอย่างให้พ่อมีความสุข แม้ทานได้เพียงน้อยนิด แต่กลับสร้างความสุขได้อย่างมหาศาล
คุณภาพชีวิตของพ่อกลับมาอีกครั้งหนึ่ง พ่อมีรอยยิ้มด้วยความอิ่มเอม ลูกได้ก้าวผ่านความกลัว ช่างงดงามในความทรงจำของทุกคน นับเป็นปรากฏการณ์ปลดล็อคอันยาวนานข้ามเดือนจากที่พ่อทานได้ทีละนิดด้วยความระมัดระวังเสมอ มาจนถึงการลิ้มรสอาหารต่างๆ เปรียบดั่งการส่งมอบคุณค่าแห่งความสุขของลูก….ในทุกคำที่เอร็ดอร่อยของพ่อ
นอกจากได้ทานของอร่อยทางปากแล้ว คุณพ่อยังได้มีโอกาสไปไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าจี่ฮงเกาะ เที่ยวปราสาทสัจธรรมที่พัทยา ไหว้เจ้าที่ศาลเจ้านาจา ก่อนกลับบ้านที่กรุงเทพฯ ยังได้แวะกินลมชมวิวทะเลที่อ่างศิลาอีกด้วย แม้บางวันคุณพ่อมีไข้ ไอ เจ็บคอ ทางครอบครัวปรึกษาคุณหมออิศรางค์ เพื่อแนะนำยาให้ทาน เพียงไม่กี่วันก็ดีขึ้น ชีวิตมีสีสันมากขึ้น คุณพ่อได้ทานข้าวแกงกระหรี่เจ๊ปุ้ย เจ้าดังวัดมังกรฯ เยาวราช ซึ่งเป็นรสชาติความอร่อยที่คุ้นเคยมานานแสนนาน
5 ธันวาคม 2566 วันมงคล ครอบครัวได้พาคุณพ่อไปทำบุญใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้งแก่พระภิกษุสงฆ์ 9 รูปจากวัดบางน้ำผึ้ง อ. พระประแดง ได้บริจาคที่นอนลมให้กับโครงการป่วยให้ยืมของมูลนิธิกระจกเงา และถวายอุปกรณ์เครื่องเขียนหนังสือไวยากรณ์บาลี ของเล่น และขนมปังพาเนตโตเน่ แก่พระมหาโดนี่ จันทร์ดี ปธ.8 พระอาจารย์ประจำสำนักเรัยนวัดโคกเปี้ยว ต.เกาะยอ จ.สงขลา ซึ่งปัจจุบันสำนักเรียนนี้มีพระ และเณร กว่า 80 รูป
คุณพ่อได้ทานอาหารอร่อยอย่างต่อเนื่อง มีอาการป่วยไข้ ไอบ้าง สลับกันไป โดยรักษาที่บ้านตลอดเวลา จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2566 ทางครอบครัวแจ้งเรามาช่วงตี 2 ว่าขณะที่คุณพ่อนอนหลับที่บ้าน สังเกตเห็นเหมือนมีเลือดพุ่งออกมาทางปาก ตัวเริ่มเย็นลง เป็นสัญญานว่าคุณพ่อเริ่มเดินทางแล้ว จากนั้นไม่นานคุณพ่อหลับไปอย่างสงบ… สู่ประตูวิมาน
ขออนุโมทนาแด่คุณพ่อที่ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ตามความประสงค์ และเป็นที่น่ายินดียิ่งที่คุณพ่อเป็นอาจารย์ใหญ่ลำดับที่ 67 ซึ่งเป็นจำนวน 1 ใน 100 รายของผู้ก่อตั้งอาคาร ชื่อของคุณพ่อจึงได้รับการจารึกไว้บนแผ่นทองของผู้ก่อตั้งอาคารกายวิภาคทางคลินิก สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ด้วย นับเป็นเกียรติประวัติอันสูงส่งล้ำค่าตราบชั่วนิรันดร์ของคุณพ่อและครอบครัว
Cr. ขอขอบคุณครอบครัวที่อนุญาตแชร์รูปภาพ และข้อความประทับใจ