34 วันแล้วที่แม่จากไป ไปอยู่ในที่ที่สบายที่สุด
34 วันแล้วที่แม่จากไป ไปอยู่ในที่ที่สบายที่สุด
แม่คงได้พบตากับยายแล้วนะคะ
ตั้งแต่ต้นปีเป็นช่วงที่แม่รักษาตัวแบบประคับประคองที่บ้านตามเจตนารมณ์ของแม่และเราก็เห็นด้วย เนื่องจากสภาพร่างกายของแม่อ่อนแอเกินกว่าจะต้องเดินทางไปพบหมอและเอายาที่โรงพยาบาล เราและพ่อจึงเป็นคนไปรับยาแทนแม่เอง..
การรักษาแบบประคับประคองโดยมีคุณหมออิศรางค์ และเจ้าหน้าที่จาก เยือนเย็น วิสาหกิจเพื่อสังคม มาตรวจรักษาและให้คำแนะนำ ช่วยทำให้ทุกคนได้ดูแลแม่อย่างใกล้ชิด อย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ซึ่งดีกว่าถ้าแม่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยไม่มีใครสามารถไปเยี่ยมได้เพราะสถานการณ์โควิด
ต้องขอบคุณพี่พยาบาลคนนึงที่แนะนำให้ได้รู้จักกับโครงการดีๆแบบนี้ค่ะ
ปกติแล้วเราจะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันกับแม่กับพ่อ จะไปหาท่านเกือบทุกอาทิตย์ แต่ช่วงที่แม่ป่วย ยังไงก็ต้องไปหาท่านให้ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเลิกงานดึกแค่ไหน จะต้องไปเปลี่ยนผ้าอ้อม ทำแผล เช็ดตัว แปรงฟัน ทำความสะอาด เช็ดหู แคะจมูกเนื่องจากจะมีขี้มูกแห้งแข็งติดบ่อยเพราะแม่ต้องใส่เครื่องผลิตอ๊อกซิเจนตลอดเวลา สวนก้นบ้างเพราะท่านถ่ายเองไม่ไหว และก็มีหลานแฝดบีม แบม ที่คอยช่วยและทำแทนในช่วงกลางวัน ดีใจและภูมิใจในหลานทั้ง 2 คนนี้ที่มีความกตัญญูดูแลย่า อย่างไม่รังเกียจ ช่วงหลังแม่ต้องใสท่อสวนปัสสาวะ เพราะขยับไม่ค่อยได้และแผลกดทับเยอะมาก ทั้งสองคนก็คอยเอาถุงปัสสาวะไปทิ้ง ส่วนพ่อก็จะดูแลเรื่องอาหารของแม่ คอยป้อน คอยถามไถ่ แหย่แม่ให้หัวเราะบ้าง ต้องคอยขานรับเวลาแม่เรียกหาตลอดทั้งคืน จนล้มป่วยไปหลายยก แต่ทุกคนก็ทำได้เพื่อแม่นะคะ
เพื่อส่งบุญต่อให้แม่ จึงตั้งใจบริจาคของและยา ที่ไม่ได้ใช้ทั้งหมดให้กับโครงการเยือนเย็น และคืนยาที่ไม่ได้ใช้กลับคืนโรงพยาบาลวชิระ เพื่อให้กับคนไข้ยากไร้ต่อไป
ไม่มีวันไหนไม่คิดถึงแม่นะคะ
ลูกรู้นะว่าแม่เป็นห่วง ลูกจะดูแลตัวเองให้ดีเพื่อจะได้ดูแลพ่อและครอบครัวต่อไปค่ะ… ไม่ต้องห่วงลูกนะคะ ลูกไหวค่ะ