ไตวาย!! ก็อร่อยได้สุดสุด...
ไตวาย!! ก็อร่อยได้สุดสุด…
คุณพ่อท่านหนึ่ง อายุ 78 ปี เดิมเป็นเบาหวาน, มะเร็งต่อมลูกหมากระยะที่ 4 ผ่าตัดอัณฑะออกแล้ว และได้ทานยาต้านฮอร์โมน จนคุณหมอแจ้งว่ายาไม่ได้ผลแล้ว จึงหยุดให้การรักษา เมื่อ 3 ปีก่อน เริ่มมีภาวะไตวายเรื้อรัง คุณพ่อไม่ยอมไปโรงพยาบาลอีกเลย จากเดิมที่เคยชอบทานอาหารอร่อย เริ่มไม่ค่อยอยากกินอาหาร กินแต่น้ำทั้งวัน น้ำหนักลดลง ปัสสาวะออกมาก เท้าเริ่มบวม ไม่มีแรงเดิน ช่วงหลัง มีอาการปวด บางครั้งปวดมาก ปัจจุบันปวดท้องรุนแรง ปวดแบบท้องกิ่ว ลูกๆ ปรึกษาเยือนเย็นฯ เพื่อการดูแลประคับประคองที่บ้าน
คุณพ่อเล่าชีวิตในอดีตให้ฟังอย่างสนุกสนานว่า ชอบใช้ชีวิตโลดโผน ช่วงวัยรุ่นเป็นนักเลงเก๋าพอสมควร เคยไปทำงานคุมการก่อสร้างที่ตะวันออกกลางอยู่หลายสิบปี ชอบสรรหาอาหารอร่อย เมื่อกลับมาเมืองไทยชอบขับรถไปหาของกินอร่อยๆ เช่น ไปอยุธยา ซื้อปลาสลิดเองได้ คุณพ่อรู้ว่าไตวายเรื้อรัง ขาบวม แต่ไม่สนใจ กินแต่ยาเบาหวาน คุณพ่อเบื่อการไปโรงพยาบาลมาก รำคาญหมอที่บอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ จะคอยโต้แย้งกับหมอตลอดและไม่พอใจ คุณพ่อไม่กลัวตาย ไม่ยอมล้างไต ไม่ยอมใส่ท่ออะไรทั้งนั้น บอกว่าใช้ชีวิตคุ้มแล้ว 
เมื่อทีมงานได้นัดหมายไปตรวจเยี่ยมคุณพ่อที่บ้าน ยอมให้เจาะตรวจเลือดที่บ้านเป็นครั้งแรกในรอบปี ผลพบว่ามีโซเดียมต่ำ เลือดเป็นกรด เลือดจาง ไตวายระยะท้ายทำงานเพียงร้อยละ 8 ของคนปกติ BUN 88 mg/dL, creatinine 6.72 mg/dL, Hb 8.1 g/dL, จึงแนะนำให้กินยาโซดามินต์ ยาลดฟอสเฟต และฉีดยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด 4000 U ทุกสัปดาห์ หลังจากฉีดยาไปหลายสัปดาห์ คุณพ่อบ่นปวดหัวทุกครั้งหลังจากฉีดยา จึงปฏิเสธไม่ยอมรับการฉีดยาต่อ ปัสสาวะมากขึ้นจึงแนะนำให้กินน้ำน้อยลงแต่คุณพ่อก็ไม่ทำตาม คุณพ่อยังคงชอบกินอาหารอร่อยตามต้องการอย่างไม่จำกัด เราอธิบายแก่ลูกๆ และผู้ดูแลที่บ้านว่า การกินอาหารมากก็ทำให้เกิดของเสีย คุณพ่อจะซึมลง และหยุดกินอาหารชั่วคราว เมื่อของเสียลดลง ตื่นมาขึ้น กินได้อีก เป็นวงจรธรรมชาติ ลูกจึงไม่เถียงกับคุณพ่อเรื่องกินอีก คุณพ่อมีความสุขขึ้น เพราะได้กินอาหารไม่จำกัด แต่ก็กินได้ไม่มากนัก คุณพ่อชอบอยู่กับแมวดำคู่ใจชื่อเจ้าลัคกี้ และแมวอีกสามตัวที่เก็บมาเลี้ยง คลอเคลียกับเจ้าเหมียวทุกวัน ผู้ดูแลที่บ้านจะแจ้งข่าวกับเราและลูก ๆ ว่าวันนี้กินอะไรบ้าง มาทางไลน์กลุ่ม บางครั้งก็ออกไปกินข้าวนอกบ้าน ขับรถไปไกลถึงอยุธยาบ้าง เมื่อมีอาการน่ารำคาญ ลูกก็จะนัดเราไปตรวจเยี่ยม และตรวจเลือดที่บ้าน ทุก 3-4 เดือน ค่าไตเสื่อมลงเรื่อย ๆ ตามเวลา แต่คุณลุง ก็อยู่ได้อย่างมีความสุข เวลาผ่านไป 12 เดือน การทำงานของไตเสื่อมลงมาก ร่างกายจะตอบสนองน้อยลงตามธรรมชาติ ทานน้อยลงเรื่อยๆ จนไม่ทานเลย คุณพ่อเริ่ม นอนหลับมากขึ้น ตื่นน้อยลง และหมดเวลาอย่างสงบที่บ้านท่ามกลางครอบครัวอย่างใกล้ชิดอบอุ่นตามเจตนารมณ์ 
ขอขอบคุณทางครอบครัวที่อนุญาตให้ลงเรื่องราวและรูปภาพเพื่อแบ่งปันเป็นวิทยาทานสู่สาธารณะ ในวิถีทางเลือกการไม่แทรกแซงธรรมชาติ และเคารพเจตจำนงของเจ้าของชีวิต