กลับบ้านความปรารถนาสุดท้ายของแม่
กลับบ้าน ความปรารถนาสุดท้ายของแม่
คุณแม่อำพิน สังข์เจริญ อายุ 80 ปี ผู้ป่วยสมองเสื่อมระยะท้าย อาศัยอยู่ที่บ้านของลูกใน กทม.
คุณแม่เริ่มมีอาการเกร็ง เดินลำบาก ล้มง่ายจากโรคพาร์กินสันตั้งแต่อายุ 78 ปี หลังจากเริ่มกินยาลดเกร็ง อาการดีขึ้นบ้าง แต่ยังคงเดินลำบาก ได้กินยาแล้วยังพอเดินไหว นอกจากนั้นมีอาการซึมเศร้า ต่อมาเดือน ก.ย.2565 คุณแม่ติดโควิด เดือนต.ต.2565 คุณแม่ล้มกระดูกสะโพกหักเมื่อเดิน รักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก
เดือน ม.ค.2566 คุณแม่ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ มีแผลกดทับ กินน้อยลง โรงพยาบาลจึงให้อาหารทางสายยาง หลังจากกลับบ้านกินทางปากได้น้อย ดูแลแผลกดทับที่บ้าน ต่อมาในเดือน ก.พ. เกิดแผลกดทับมีหนอง ติดเชื้อในกระแสเลือด จึงให้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่อง 14 วัน และตัดเนื้อตายออกจากแผล ให้อาหารทางสายอาหาร NG อีก และใส่สายสวนปัสสาวะ กลับบ้านทำแผลโดยพยาบาลวันละสองครั้ง ครอบครัวเริ่มปรึกษาเยือนเย็น เพื่อการดูแลที่บ้าน
คุณแม่มีลูก 4 คน คุณแอ๊ว คุณอ้อย คุณสุ คุณอัญ โดยแม่อยู่กับ คุณอ้อย ซึ่งเป็นผู้ดูแลหลัก ขณะที่คุณแอ๊ว และภรรยา คุณสุ คุณอัญ มาเยี่ยมทุกวัน คุณแม่ค้าขายมาตลอด หยุดทำงานมา 20 ปี หลังจากนั้นไปอยู่ที่บ้านลูกๆ คุณแม่ชอบทำงาน ไม่ชอบอยู่เฉย แม่ชอบฟังเพลงลูกทุ่ง แม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับคุณแอ๊ว แม่ชอบทำบุญ คุณแม่สูญเสียพ่อเมื่อพ.ศ.2558 ตอนนั้นคุณพ่อถูกยื้อชีวิตที่โรงพยาบาลในสองเดือนสุดท้ายทั้งที่พ่ออยากกลับบ้าน ต่อมาคุณแม่ คุณแอ๊ว คุณกุ้ง และคุณสุ ได้รับโอกาสดีๆ จากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ให้ไปร่วมคอร์สอบรมการตายดีกับพระอาจารย์ครรชิต อกิญจโน หลังจากพ่อตาย คุณแม่ชอบสวดมนต์ด้วยตนเอง จนเมื่อมีอาการสมองเสื่อมจึงอ่านหนังสือไม่ออกและหยุดไป
เราได้ให้คำปรึกษากับลูก ๆ ว่า คุณแม่เริ่มนอนหลับมากขึ้นแล้ว อาจจะเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต คุณแม่ไม่กิน จึงแนะนำว่าไม่พึงฝืนธรรมชาติ กินเท่าที่ได้ ถ้าไม่กิน ไม่ต้องกลัวจะขาดอาหาร เพราะแม่ยังมีไขมันในตัวอีกมากสร้างพลังงานทดแทนได้ จะไม่รู้สึกหิวทรมาน แม่มีคุณภาพชีวิตดีที่บ้าน มีลูกผลัดกันมาเยี่ยมเยียน จึงสนับสนุนให้อยู่บ้าน ลูกทุกคนเห็นพ้องกันว่า อยากให้คุณแม่สบาย เมื่อถึงเวลาก็อยากให้ตายสงบ แต่ขณะนี้ยังไม่มีเหตุที่จะทำให้หมดเวลา ครอบครัวจึงพร้อมดูแลที่บ้าน หากมีโรคร้าย เช่นสลบไปเนื่องจากโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง หมอจะมาประเมินให้ไม่ต้องพึ่งโรงพยาบาล หากมีไข้หรือโรคแทรกซ้อนให้รีบแจ้งข่าว จะช่วยประเมินและอาจรักษาที่บ้านได้
ครอบครัวสามารถติดต่อ #เยือนเย็น ได้ตลอดเวลาทางไลน์กลุ่ม และทางโทรศัพท์ เดือน มิ.ย. 2566 คุณแม่เริ่มมีอาการทรุดลง จนใกล้เสียชีวิต ลูกจำได้ว่าแม่ยังมีความปรารถนาอีกสิ่งหนึ่งคือกลับไปเยี่ยมบ้านที่เคยเติบโตมาซึ่งอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ครอบครัวจึงปรึกษาเยือนเย็น เพื่อร่วมตัดสินใจสานฝันช่วยให้คุณแม่สมปรารถนา ทีมงานได้ให้ความมั่นใจว่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับแม่ที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมก่อนเสียชีวิต ไม่ต้องกลัวการเดินทาง จึงช่วยจัดหารถพยาบาลเพื่อพาคุณแม่กลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดปราจีนบุรี จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
วันที่ 28 มิ.ย. 2566
ช่วงเช้าคุณอ้อยนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เพื่อให้คุณแม่ได้ใส่บาตร ถวายสังฆทาน และกรวดน้ำ
หลังจากนั้นทีมงานเยือนเย็นร่วมเดินทางไปพร้อมกับคุณแม่และครอบครัว บนรถพยาบาลระหว่างกำลังเดินทาง คุณแม่หัวใจเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม สัญญาณชีพดีขึ้น เมื่อไปถึงยังบ้านที่จังหวัดปราจีนบุรี แม้คุณแม่จะนอนอยู่บนเตียง แต่ยังคงรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว ครอบครัวบอกกับคุณแม่ว่า…มาถึงบ้านแล้วนะ คุณแม่มีอัตราการเต้นของหัวใจคงที่ และสัญญาณชีพอื่นๆ ดีขึ้นกว่าเดิม ในที่สุดคุณแม่ก็ได้สมปรารถนา กลับมายังบ้านที่ตนเองเคยเติบโต ญาติ ๆ ต่างมาเยี่ยมด้วยความดีใจ เมื่อทุกคนได้มาเยี่ยมคุณแม่แล้วก็พาเดินทางกลับ กทม.ในวันนั้นเลย สัมผัสได้ถึงความสุข อบอุ่นมาก
ในเวลาสามทุ่มของวันเดียวกัน หลังจากกลับมาถึงบ้านที่กทม.ช่วงบ่าย 4 ภารกิจเสร็จสมบูรณ์ คุณแม่อำพินเดินทางจากโลกนี้ไปอย่างสงบท่ามกลางครอบครัวอันเป็นที่รัก สมตามเจตนาของคุณแม่ที่จะหมดเวลาสุดท้ายที่บ้านอันอบอุ่น ความปรารถนาสุดท้ายของคุณแม่ที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ได้รับการเติมเต็มจากครอบครัวที่รักและเข้าใจคุณแม่ โดยมีเยือนเย็นช่วยให้การสนับสนุน ประคับประคองเคียงข้างจวบจนวันสุดท้าย
ขอบคุณทางครอบครัวคุณแม่อำพิน ที่อนุญาตให้ลงเรื่องราวประทับใจพร้อมรูปภาพแห่งความอบอุ่น